- Advertisement -
วิธีดูแลน้องแมวให้ปลอดภัย และห่างไกลโรค
วิธีดูแลน้องแมว แมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลายๆคน ซึ่งช่วยให้เรารู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆ แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด โดยมักจะเลียขนตัวเองอยู่เป็นประจำนั้น แต่เราก็ต้องหาทางป้องกันไม่ให้น้องไปเล่นซุกซนในที่สกปรก และต้องคอยดูแลอยู่เป็นประจำ ซึ่งเราได้รวบรวมวิธีดูแลเจ้าเหมียวมาฝากกันค่ะ
- เลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพ : อาหารเป็นสิ่งแรกที่สำคัญ ซึ่งคุณควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ อย่าเน้นที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะบางยี่ห้อเมื่อกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้น้องกลายเป็นโรคไตได้ค่ะ ซึ่งนอกจากจะสร้างความทรมานให้แมวแล้ว เจ้าของยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกมาก อาหารแมวที่ดีนั้นจะช่วยให้แมวแข็งแรง มีสุขภาพดี อายุยืน ไม่ป่วยง่าย โดยอย่าลืมเลือกสูตรที่เหมาะกับวัยของแมวแต่ละตัวด้วยนะคะ
- จับทำหมันตามอายุที่สมควร : การทำหมันแมวเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นอกจากจะช่วยลดจำนวนการเกิดของลูกแมว ที่ต่อไปจะมีค่าใช้จ่ายมากมายตามมาอีกนับไม่ถ้วน และถ้าสักวันหนึ่งเราเลี้ยงไม่ไหวขึ้นมา อาจจะต้องบอกลาทั้งน้ำตาก็เป็นได้ นอกจากการทำหมันจะช่วยลดปริมาณการเกิดของแมวแล้ว ยังช่วยทำให้น้องมีอารมณ์คงที่ ไม่หงุดหงิดและก้าวร้าวง่ายอีกด้วย นอกจากนั้นยังพบว่าการทำหมันแมวจะทำให้น้องมีอายุยืนยาวมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า ซึ่งเราสามารถทำหมันแมวได้ตั้งแต่น้องมีอายุ 4 – 6 เดือนขี้นไปค่ะ
- ฉีดวัคซีนเป็นประจำ : การฉีดวัคซีนให้แมวจะเป็นเสมือนเกราะป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ทำให้แมวแข็งแรงและมีอายุยืนขึ้น โดยเริ่มแรกต้องฉีดวัคซีนให้ลูกแมวพร้อมกับถ่ายพยาธิ เมื่อน้องมีอายุประมาณ 1 เดือน จากนั้นเมื่ออายุ 6 สัปดาห์ก็ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคหน่อนพยาธิหัวใจและโรคอื่นๆ และเมื่ออายุครบ 8 สัปดาห์ก็ต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัด หวัดแมว ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่สามารถทำให้แมวหมดอายุขัยได้ง่ายๆ และหลังจากนั้นทุกๆ 1 ปีก็จะต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและโรคติดต่ออื่นๆ ด้วยค่ะ ซึ่งนับว่าหลายเข็มอยู่ทีเดียว แต่ก็ควรทำเพื่อให้สุดที่รักอยู่กับคุณไปนานๆ
- พาน้องไปออกกำลังกาย : การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมทั้งน้องแมวด้วย การที่แมวเอาแต่กินๆนอนๆ จนเคยตัว ซึ่งเจ้าของบางคนอาจจะพอใจอยู่นั้น เพราะเห็นว่าน้องอยู่สบายและมีความสุข นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยค่ะ เพราะอาจทำให้แมวอ้วนและน้ำหนักเกินจนเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆตามมา โดยน้ำหนักที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคือประมาณ 3 – 4.5 กิโลกรัม สำหรับแมวสายพันธุ์เล็ก ส่วนแมวสายพันธุ์ใหญ่อย่างแมนคูนนั้นน้ำหนักก็ไม่ควรเกิน 11 กิโลกรัมจึงนับว่าพอดี โดยควรเล่นกับแมวหรือพาน้องไปออกกำลังกายวันละ 1- 2 ครั้ง โดยประมาณ 10-15 นาที ก็จะทำให้น้องมีสุขภาพที่ดี และร่าเริงสดใสค่ะ
- อย่าลืมตัดเล็บให้แมวหรือหาที่ฝนเล็บให้ : เล็บแมวเป็นสิ่งที่เก็บสิ่งสกปรกสะสมหมักหมมอยู่รวมกัน เราจึงต้องหมั่นตัดเล็บแมวเป็นประจำ หรือบางตัวที่จับตัดยากก็ควรหาที่ฝนเล็บให้น้อง โดยจะเป็นกระดาษลูกฟู กระดาษลัง หรือเชือกพันไม้ก็ได้ค่ะ แต่สำหรับแมวที่มีอายุมากและตาบอด อาจจะฝนเล็บไม่เป็น ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ เล็บจะยาวเข้าไปจิกในเนื้อเท้าแมว ทำให้เวลาเดินน้องจะเจ็บปวดและทรมานมากค่ะ หากเราไม่สามารถตัดเล็บแมวเองได้ ก็สามารถพาน้องไปตัดได้ที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไปได้ค่ะ
แม้ว่าการดูแลแมวจะมีรายละเอียดค่อนข้างมากอยู่หลายข้อ แต่เราก็ต้องใส่ใจดูแลน้องอย่างเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้น้องได้รับบาดเจ็บ หรือป่วยเป็นโรคต่างๆ การที่แมวมีความสดใส ร่าเริง และสุขภาพดีอยู่เสมอนั้น นอกจากจะทำให้แมวมีความสุขแล้ว คนที่เป็นเจ้าของก็ยังมีความสุขตามไปด้วยค่ะ และที่สำคัญจะทำให้น้องอยู่เล่นเป็นเพื่อนกับเราไปได้อีกนาน
Unlenlen.com -สัตว์
Facebook : Unlenlen.com – อ่าน เล่นๆ