Homeอาหารและสุขภาพแกงมัสมั่น เสน่ห์แห่งความพิถีพิถัน

แกงมัสมั่น เสน่ห์แห่งความพิถีพิถัน

- Advertisement -

แกงมัสมั่น ตำรับไทย เสน่ห์แห่งความพิถีพิถัน และชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วโลก

      บ่อยครั้งที่การจัดอันดับในวงการอาหาร และการโหวตของผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวลิ้มลองรสชาติเมนูจากทั่วโลก ชื่อของแกง มัสมั่น มักจะถูกบรรจุไว้อยู่ในอันดับต้น ๆ อยู่เสมอ รวมถึงชนะเลิศมาแล้วหลายรายการ ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงเป็นที่ถูกใจของผู้คนจำนวนมาก แม้ว่าในประวัติความเป็นมา เมนูนี้จะเป็นอาหารที่ได้รับการต่อยอดมาจากต้นกำเนิดที่ประเทศ อินเดีย ขยายมาสู่ มลายู ซึ่งชาวไทยมุสลิมจะรู้จักกันดีในชื่อเรียกว่า “ซาละหมั่น” โดยรสชาติแบบดั้งเดิมจะมีรสแบบเค็มมัน ก่อนที่ชาวไทยมุสลิมจะนำมาดัดแปลงให้ออกรสหวาน  ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้รับการประยุกต์ไปอีกขั้น เมื่อชาวไทยภาคกลางได้นำเมนูนี้มาผสมผสานกับวิถีพื้นบ้านและชาววัง จนปัจจุบันกลายเป็นส่วนผสมของความอร่อย เป็นเมนูที่ประทับใจ สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้รับการยอมรับเป็นที่จดจำในสถานะของความเป็น อาหารไทย

อย่างไรก็ตามการจะเสาะหาทานเมนูนี้ อาจไม่ได้พบเจอในร้านอาหารทั่วไปมากนัก เพราะเป็นชนิดของอาหารที่มีขั้นตอนการทำอย่างละเอียด ใช้เวลาในการเคี่ยวนาน กทั้งยังทำในปริมาณที่อาจไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายครั้งละปริมาณมาก แถมต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และความพิถีพิถันในการทำ จึงทำให้ร้านอาหารทั่วไปหลายร้านมักไม่ค่อยบรรจุเมนูนี้ไว้ในรายการ จึงทำให้เวลาที่คนทั่วไปอยากรับประทานและไม่สะดวกที่จะเสาะหาทานจากร้านอาหาร ก็ต้องลงมือฝึกฝนทำด้วยตัวเองซึ่งผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอน สามารถใส่วัตถุดิบได้อย่างจุใจและมีคุณภาพได้อีกด้วย ยิ่งพัฒนาให้อร่อยได้มากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ก็จะเป็นที่ชื่นชอบต่อครอบครัว หรือเพื่อน ๆ และคนที่รัก อย่างแน่นอน

ส่วนผสม

  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • หางกะทิ 1 ถ้วย
  • พริกแกงมัสมั่น 200 กรัม
  • สะโพกไก่ 1 กิโลกรัม
  • ลูกกระวาน 10 เม็ด
  • น้ำปลา 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
  • ถั่วลิสงคั่ว 1/4 ถ้วย
  • มันฝรั่ง
  • หอมใหญ่ 1 หัว
  • ใบหยี่หร่า 8-10 ใบ

วิธีการทำ

      ในแบบของไทยนั้นมีวัตถุดิบสำคัญที่ต้องมีนั่นก็คือ น้ำพริกแกง ซึ่งประกอบไปด้วย พริกแห้ง หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ดอกจันทน์ กานพลู ยี่หร่า ลูกผักชี  



  • เริ่มจากการใช้หัวกะทิลงไปเคี่ยวจนแตกมัน ซึ่งในส่วนของหัวกะทินั้นจะมีส่วนสำคัญของความอร่อยเป็นอย่างมาก 
  • นำเครื่องพริกแกงที่เตรียมไว้ มาลงผัดให้หอม
  • ใส่สะโพกไก่ลงไปผัดจนไก่เริ่มสุกได้ที่
  • ใส่หอมใหญ่หั่น มันฝรั่ง ใบหยี่หร่า ถั่วลิสง ลงไปผัดคลุกให้เข้ากับน้ำแกง
  • เติมหางกะทิ
  • เคี่ยวไปเรื่อยๆ ประมาณ 45 – 60 นาที จนกว่าสะโพกไก่จะเปื่อยได้ที่และแกงเริ่มส่งกลิ่นหอมกรุ่น หมั่นคนหน่อยนะคะ ไม่งั้นก้นหม้อจะไหม้ได้ 
  • จากนั้นปรุงรสเพิ่มด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ค่อยๆ ใส่ปริมาณไปทีละนิดอย่างระมัดระวัง สลับการชิมจนพอใจในรสชาติ เคี่ยวไฟต่อไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็เป็นอันเสร็จ
- Advertisement -

      และทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า แม้ว่าเมนูนี้จะทำในแบบที่ง่ายก็ใครๆก็ทำได้  แต่หากจะทำให้ถึงขั้นความอร่อยอย่างลึกซึ้งถึงขั้นแล้วล่ะก็ จำเป็นจะต้องอาศัยทั้งการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การควบคุมขั้นตอน และการเคี่ยวไฟที่ใช้เวลานาน นั่นจึงเป็นเมนูที่มีความพิถีพิถันในขั้นสูง และครองใจนักชิมจากทั่วโลก สร้างชื่อเสียงให้กับอาหารไทยมาอย่างยาวนาน

Unlenlen.com -อาหารเช้า

Facebook : Unlenlen.com – อ่าน เล่นๆ

ฮอตฮิต